2554/04/30

ผิวเต่งตึงด้วยผักรสขม

ใครเลยจะคิดว่าผักขมๆ อย่างบัวบกและขี้เหล็กจะช่วยบำรุงผิวพรรณได้ วันนี้ปั้นสวยด้วยมือคุณ ไปค้นหาสูตรเด็ดที่หลายคนยังไม่เคยได้ยินมาฝาก รับรองว่าทำแล้วไม่มีอันตรายใดๆค่ะ เพราะผักสองชนิดนี้ขึ้นชื่อว่ามีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรอยู่แล้ว สรรพคุณที่ว่านั้นคืออะไร และสูตรบำรุงผิวมีส่วนผสมอะไรบ้างโปรดติดตามค่ะ

บัวบก+ขี้เหล็ก รสขมดีต่อผิว

ในบรรดาผักทั้งหลาย คาดว่าหลายคนคงจัดบัวบกและขี้เหล็กไว้ในลำดับท้ายๆของผักที่ชื่นชอบ เพราะรสขมของผักทั้งสองชนิด ทำให้เป็นผักที่ทานยากอยู่สักหน่อย โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบทานผักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ลองมาฟังประโยชน์ของผักรสขมกันหน่อย เผื่อจะทำใจให้ชอบขึ้นมาได้บ้างค่ะ



เริ่มจากบัวบก ซึ่งนำมาใช้บำบัดอาการเกี่ยวกับสมองมาเป็นเวลานาน และให้ผลค่อนข้างดี จนได้ชื่อว่าเป็น "อาหารสมอง" อีกอย่างหนึ่ง เพราะคนสมัยก่อนเชื่อว่าการรับประทานบัวบกจะช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับสมอง ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน ทั้งในแง่ของกำลังกาย และกำลังสมอง ทั้งยังช่วยควบคุมความดันโลหิตให้ปกติ ลดภาวะความเป็นหมัน ช่วยชะลอความแก่ ช่วยกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย และมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอย่างอ่อน

จากการศึกษาทางเภสัชวิทยาเพื่อค้นหาสารสำคัญ หรือสารออกฤทธิ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในใบบัวบก พบว่าจะให้สารไกลโคไซด์ (Glycosides) หลายชนิดที่ให้ผลต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidation) ซึ่งช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ รวมทั้งยังอุดมด้วยวิตามินต่างๆ

นอกจากนี้ยังพบว่าสารไกลโคไซด์ที่ได้จากใบบัวบกยังส่งผลเร่งการสร้างสาร คอลลาเจน (Collagen) ที่เป็นโครงสร้างของผิว จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้นระงับการเจริญ เติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดหนองและลดการอักเสบ มีรายงานการค้นพบฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา อันเป็นสาเหตุของโรคกลาก ปัจจุบัน มีการพัฒนายาบัวบกชนิดครีม ให้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัด




ส่วนขี้เหล็ก ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำมาแกง ขึ้นชื่อลือชาทางสรรพคุณรักษาอาการท้องผูก และอาการนอนไม่หลับได้ดี ทั้งยังช่วยถอนพิษไข้ แก้เสมหะ และแก้รังแค ใบและดอกขี้เหล็ก มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านให้พลังงาน เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เบต้า-แคโรทีน และวิตามินชนิดต่างๆ โดยเฉพาะดอกตูมมีวิตามินเอ และวิตามินซี ค่อนข้างสูง

ดังนั้น การนำผักรสขมทั้งสองชนิดมาเป็นสูตรบำรุงผิวหน้า ก็ด้วยเห็นข้อดีเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการช่วยระงับเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์  และประโยชน์จากวิตามินที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะวิตามินซีซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวให้สดใสขึ้น

สำหรับสูตรพอกหน้าที่นำมาแนะนำ  มี 3 สูตร คือ

สูตรที่ 1 ผิวสดชื่นด้วยบัวบก

ส่วนผสม
  • ใบบัวบก 1 กำมือ
  • น้ำสะอาดเล็กน้อย
วิธีทำ
  1. นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว
  2. ล้างหน้าให้สะอาด แล้วพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นขึ้น ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

สูตรที่ 2 ผิวเต่งตึงด้วยขี้เหล็ก

ส่วนผสม
  • ยอดขี้เหล็ก 1/2 ถ้วย
  • น้ำผึ้งแท้ 1/2 ถ้วย
  • ยอดมะขาม 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
  1. นำยอดขี้เหล็กและยอดมะขามมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน  จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว
  2. ล้างหน้าให้สะอาด แล้วพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกว่าผิวหน้าเต่งตึงขึ้น ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
*** เนื้อครีมที่เหลือสามารถเก็บในตู้เย็น ไว้ใช้ครั้งต่อไปได้

สูตรที่ 3 ผิวนวลเนียนด้วยขี้เหล็ก

ส่วนผสม
  • ใบและยอดขี้เหล็ก 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • นมสด (เล็กน้อย)
วิธีทำ
  1. นำใบและยอดขี้เหล็กมาล้างน้ำให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับไข่ไก่ และนมจนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน  จะได้เป็นเนื้อครีมข้นและเหนียว
  2. ล้างหน้าให้สะอาด แล้วพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นขึ้น ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
*** เนื้อครีมที่เหลือสามารถเก็บในตู้เย็น ไว้ใช้ครั้งต่อไปได้

คราวนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ที่จะลองมาใช้ผักขมๆพอกหน้าดูบ้างค่ะ

Tip

  1. ใช้ใบบัวบกรักษาอาการเนื่องจากแมลงกัดต่อย โดยใช้ใบขยี้แล้วทา
  2. ใช้ใบบัวบกรักษาแผลสด ด้วยการตำให้ละเอียด พอกแผลวันละ 2 ครั้ง จะช่วยสมานแผล ระงับเชื้อแบคทีเรีย
  3. เมื่อนำใบขี้เหล็กมาบ่มรวมกับผลไม้จะช่วยทำให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น
ที่มา ชีวจิต

1 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งรู้ว่าใบบัวบกใช้เป็นสมุนไพรพอกหน้าก็ได้ด้วย ขอบคุณที่แนะนำนะคะ

    ตอบลบ